ต้องยอมรับว่าสินค้าที่เป็นอุปกรณ์ไอทีประเภทเครื่องประดับนั้นกำลังมีการเติบโตที่ค่อนข้างเร็วและเริ่มขยายกลุ่มผู้เข้าถึงออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้น. ซึ่งหนึ่งในเจ้าที่เป็นผู้นำในสายงานธุรกิจนี้อย่าง Apple ที่ถงแม้จะสินค้าที่เป็นลูกรักอย่าง iPhone และคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac อยู่แล้ว ก็ยังให้ความใส่ใจในสินค้าประเภทเครื่องประดับไม่น้อย. สินค้าอย่าง Apple Watch, AirPods, หรือแม้แต่ HomePod ต่างก็มีทิศทางการเจริญเติบโตที่สดใสและกำลังทำรายได้จะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่สองในกลุ่มสินค้าทั้งหมดของ Apple.
ล่าสุดมีการเปิดเผยรายงานตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด
ซึ่งสินค้าประเภทเครื่องประดับไอที ทำรายได้ตีตื้นขึ้นมาเกือบจะเทียบเท่ารายได้จากคอมพิวเตอร์ Mac. ซึ่งหากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วนั้นจะเห็นได้ว่าตัวเลขยังค่อนข้างห่างกันอยู่พอสมควร. ซึ่งเหมาะเจาะพอดีกับช่วงเวลาที่ยอดขาย iPhone อยู่ในขาลงและทำได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว. ในปีงบประมาณ 2019 สินค้าประเภทเครื่องประดับไอทีของ Apple ทำรายได้ไปกว่า $24.5 พันล้านเหรียญฯ คิดเป็น 95% ของรายได้จากสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านที่ทำรายได้คิดเป็นแค่ 69% จากรายได้จากคอมพิวเตอร์ Mac.
แน่นอนตัวเลขเหล่านี้ยังห่างมากเมื่อเทียบกับ iPhone และหากเทียบกันในเรื่องของราคาและปริมาณของสินค้ากับคอมพิวเตอร์ก็คงจะเทียบไม่ได้(MacBook หนึ่งเครื่องซื้อ Apple Watch ได้ไม่รู้กี่เรือน) แต่ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าตลาดที่รองรับสินค้าประเภทนี้กำลังเจริญเติบโตและโตเร็วมาก. ซึ่งนั่นหมายถึงการกระตุ้นให้เกิดความหลากหลายของสินค้าประเภทเครื่องประดับไอทีมากขึ้น อย่างเช่นแหวน, แว่นตาเป็นต้น.
ธนาคารออมสิน สนองนโยบายรัฐบาล และกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทันที 0.125% ทั้ง MRR, MOR และ MLR ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย MRR และ MOR = 6.745% ต่อปี ส่วน MLR = 6.375% มีผลวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ขณะที่ยังคงความเป็นสถาบันการออม ชะลอการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากถึงต้นปีหน้า ชวนประชาชน-ลูกค้าฝากเงินประจำระยะยาว ปีหน้าปรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำลง 0.125% มีผล 1 ม.ค.63
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยภารกิจหลักสำคัญของธนาคารออมสินคือการมุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้การให้บริการสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจการเงิน และตอบสนองทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงให้ความสำคัญต่อประชาชน ลูกค้าเงินกู้ โดยเฉพาะธนาคารออมสินมีลูกค้ารายย่อยจนถึงระดับ SMEs เป็นจำนวนมาก ธนาคารฯ จึงได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราเท่ากัน 0.125% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR (Minimum Retail Rate) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินเบิกเกินบัญชี หรือ MOR (Minimum Overdraft Rate) ลดลงจาก 6.87% เหลือ 6.745% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลา หรือ MLR (Minimum Lending Rate) ปรับลดลงจาก 6.50% เหลือ 6.375% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารฯ ยังคงภารกิจหลักมุ่งมั่นส่งเสริมการออม จึงชะลอการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝาก โดยยังคงให้ผู้ฝากเงินฝากทุกประเภทได้รับผลตอบแทนในอัตราเท่าเดิมจนถึงสิ้นปี 2562 หลังจากนั้นจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.125% มีผลวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
“ในวันนี้ลูกค้าผู้ฝากของธนาคารออมสิน ยังคงได้รับดอกเบี้ยในอัตราเดิมต่อไปอีกเกือบ 2 เดือน โดยธนาคารฯ มีนโยบายที่จะลดดอกเบี้ยเงินฝากให้ช้าที่สุด เพื่อส่งเสริมการออมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ลูกค้าและประชาชนเร่งมาฝากเงินก่อนที่ธนาคารฯ จะลดดอกเบี้ยเงินฝากในวันขึ้นปีใหม่ 2563 โดยขอแนะนำว่าให้ฝากเงินระยะยาวเพื่อจะได้รับดอกเบี้ยที่คุ้มค่ามากกว่าเมื่อมีการปรับลดในวันที่ 1 มกราคม 2563”ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในที่สุด
สรรพากร ชี้แจงข่าว ‘คลังหวั่นลดภาษีบุคคล 10% ทำรัฐสูญเสีย 7 หมื่นล้าน’
ลดภาษี – ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ตามที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า “คลังหวั่นลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ตามนโยบายหาเสียงพรรคพลังประชารัฐทำรัฐสูญเสียรายได้ 7 หมื่นล้านบาท” ไม่เป็นความจริง
เนื่องจากเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาและยังไม่ได้มีข้อสรุปตามข่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องทำด้วยความรอบคอบ และต้องทำควบคู่กับการปรับโครงสร้างภาษี ทั้งระบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามนโยบายรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้ตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางปฏิรูปโครงสร้างภาษีอากร ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อดูแลการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ
‘ทั้งนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างศึกษาในรายละเอียดการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในภาพรวม โดยคำนึงถึงการสร้างความเป็นธรรม หลักความเป็นกลางของระบบภาษี และกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ เพื่อนำเสนอคณะทำงานศึกษาแนวทางปฏิรูปโครงสร้างภาษีอากรและกระทรวงการคลังโดยเร็วต่อไป
ด้าน นาย รอดนีย์ ดิ๊กซอน นักกฏหมายที่พยายามยื่นเรื่องต่อ ICC ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวการ์เดียนว่า ทีมของเขาจะนำเสนอหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีความดังกล่าว ในเดือนถัดจากนี้ ซึ่งพวกเขาตั้งเป้าที่จะให้มีการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบในอุยกูร์
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป