สุดงง! เจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดาสั่งปรับ สองสามีภรรยา หลังทั้งสองละเมิดกฎ ด้วยการให้ ภรรยาจูงสามีแบบสุนัข ใกล้บ้านของพวกเขาเอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปรับเงินคู่สามีภรรยาที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่ภรรยาได้เดินจูงสามีใกล้กับบ้านพักของพวกเขาในรัฐคิวเบค ประเทศแคนาดา
โดยรัฐคิวเบค มีมาตรการเคอร์ฟิวในช่วงเวลาประมาณ 20.00 – 5.00 น.
เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ทางการอนุญาตให้ประชาชนสามารถพาสัตว์เลี้ยงเดินรอบๆบ้านได้ ผู้กระทำผิดได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พวกเขาปฏิบัติตามกฎสำหรับสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปรับเงินคนละราวๆ 35,000 บาท
ในช่วงสัปดาห์แรกที่เจ้าหน้าที่ใช้เคอร์ฟิว เจ้าหน้าที่ได้ออกใบสั่งให้กับผู้ละเมิดกฎหมายแล้ว 750 ใบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าพวกเขาเข้าใจว่าเป็นเรื่องยากที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าว แต่พวกเขาอยากจะขอร้องให้ประชาชนให้ความร่วมมือ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะนี้ประเทศแคนาดามียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 670,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้ว 17,000 ศพ โดยในช่วงที่ผ่านมาประเทศแคนาดาพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อุณหภูมิสเปน ในหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเหน็บ โดยเฉพาะเมืองทางตอนกลางที่อุณหภูมิลงต่ำถึง -25 เซลเซียส เมื่อวันที่ 13 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า อุณหภูมิที่เมืองโมลินา เด อารากอน และเมืองเตรูเอล ตอนกลางของประเทศสเปนอยู่ที่ -25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอิทธิพลจากพายุหิมะ ฟิโลมินา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิที่สองเมืองเผชิญถือเป็นอากาศที่เย็นที่สุดในรอบ 20 ปี
โดยประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวจากสำนักข่าว BBC ว่า พวกเขาต้องเผชิญอากาศที่เย็นยะเยือกแบบนี้ไปอีกสองสามวัน ซึ่งการใช้ชีวิตในช่วงนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก ถนนหลายสายถูกตัดขาดเนื่องจากหิมะที่มีจำนวนมาก แต่พวกเขามั่นใจจะสามารถผ่านไปได้
ขณะนี้มีรายงานว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากอากาศหนาวแล้ว 7 ศพ ซึ่งทางการได้เตือนให้ผู้สูงอายุทั่วประเทศหลีกเลี่ยงออกนอกเคหสถาน
สถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ยังคงร้อนระอุ และหลายฝ่ายจับตามองการ ถอดถอน นาย ทรัมป์ ซึ่ง นาย เพนซ์ ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 มกราคม สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นาย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกจดหมายโต้ตอบนาง แนนซี เปโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา ว่าตนไม่อยากใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอนนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ยังคงร้อนระอุ และหลายฝ่ายจับตามองการ ถอดถอน นาย ทรัมป์ ซึ่ง นาย เพนซ์ ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 13 มกราคม สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นาย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกจดหมายโต้ตอบนาง แนนซี เปโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา ว่าตนไม่อยากใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 ถอดถอนนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สุดพีค! เจ้าสาว แต่งงานกับแขก หลังเจ้าบ่าวเทกลางงาน
เกิดเหตุการณ์สุดดราม่าและพีคขึ้นในงานแต่งงานหนึ่ง ของประเทศอินเดีย เมื่อเจ้าสาวโดนเจ้าบ่าวเท ไม่ยอมมาตามนัด ก่อนที่เธอจะได้ แต่งงานกับแขก แทน เหตุการณ์สุดดราม่าและจบแบบหักมุมในพิธีงานแต่งครั้งนี้ เกิดขึ้น ณ รัฐกรณาฏกะ ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย เมื่อ อโชค และนาวิน 2 พี่น้องถูดจัดให้แต่งงานในวันเดียวกัน
ตามกำหนดการคือจะมีพิธีขึ้นในวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยที่อโชค ก็แต่งงานอย่างมีความสุข ราบรื่นไร้ปัญหา แต่นาวินนั้นกลับต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเจ้าตัวมีแฟนสาวอยู่แล้ว แต่กลับถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานกับผู้หญิงชื่อ สินธุ
และมันยิ่งแย่มากขึ้นไปอีก เมื่อแฟนสาวของเขาขู่จะฆ่าตัวตาย หากเขาร่วมพิธีครั้งนี้ นาวินจึงตัดสินใจที่จะหายหน้าไปเสียดื้อ ๆ ทำให้สินธุต้องเคว้งคว้างกลางงาน ด้วยเหตุนี้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวจึงประกาศว่า จะยกเจ้าสาวให้กับแขกผู้มาร่วมงานคนไหนก็ได้ ที่อาสามาเป็นเจ้าบ่าวให้ เพราะต้องการปลอบใจเธอ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เทศบาลรายหนึ่งนามว่า จันทราปปะ ที่มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย จึงอาสาก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าบ่าวคนใหม่ของเธอ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านีนาง เปโรซี สภาสหรัฐฯเตรียมเดินหน้าผ่านมติเอกฉันท์ เรียกร้องให้นาย เพนซ์ ถอดถอน นาย ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง หากมติดังกล่าวไม่ได้รับการยินยอมอย่างเป็นเอกฉันท์ จะนำไปสู่การลงคะแนนรับรองรวมในวันถัดมา ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอญัตติ อิมพีชเมนต์ หรือการไต่สวนเพื่อถอดถอนนายทรัมป์แล้ว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น กลุ่มผู้สนับสนุน นาย ทรัมป์ ได้บุกสภาสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะที่วุฒิสมาชิกกำลังลงเสียงรับรองนาย ไบเดน ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเหตุความรุนแรงครั้งนี้เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมเสียชีวิต 5 ศพ
ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า นาย ทรัมป์ ได้พูดจาปลุกปั่นจนทำให้เหตุบานปลาย และ นำไปสู่การถอดถอนในครั้งนี้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป